Under The Queen’s Umbrella

Under The Queen’s Umbrella (ใต้ร่มราชินี)

ชื่อเรื่อง : The Queen's Umbrella / Shuroop / 슈룹
ประเภท : ดราม่า ประวัติศาสตร์
จำนวนตอน : 16
ออกอากาศช่อง : tvN
ช่วงออกอากาศ : 15 ต.ค. 2022 - 4 ธ.ค. 2022
วันเวลาออกอากาศ : เสาร์ - อาทิตย์ 19.00 น.


สปอยล์ Under The Queen’s Umbrella ตอนที่ 11

ก่อนที่จะมีการตัดสินเลือกองค์รัชทายาทในรอบสุดท้าย ฝ่าบาททรงเปิดโอกาสให้องค์ชายที่ผ่านเข้ารอบทั้งสามคนได้ทูลถามในสิ่งที่อยากรู้ จากนั้นพระองค์จึงทรงเพิ่มเอกสารในการพิจารณาและส่งมอบให้แก่เหล่าบัณฑิต สนมฮวังและท่านอัครมหาเสนาบดีอดคิดไม่ได้ว่าฝ่าบาทอาจจะทรงแอบทำการประเมินเองอย่างลับๆ สนมโกทูลองค์ราชินีว่าตอนนี้องค์ชายซองนัมเป็นผู้ที่มีคะแนนสูงสุด แต่องค์ราชินีทรงสงสัยว่าเรื่องนี้แพร่งพรายออกมาได้อย่างไรในเมื่อตอนนี้เหล่าบัณฑิตเก็บตัวและตัดขาดจากโลกภายนอกระหว่างการพิจารณา

พระพันปีไม่พอพระทัยเมื่อทรงทราบเรื่องนี้และสนมแทก็กังวลว่าองค์ชายโบกอมจะตกรอบ ใต้เท้ายุนซูควังรับปากว่าจะช่วยโน้มน้าวบิดาของเหล่าบัณฑิตที่ยังไม่ได้เลือกฝ่ายไหนให้มาอยู่ฝ่ายพระพันปีและสนมแท แต่พระพันปีทรงมีรับสั่งให้ใต้เท้ายุนรีบไปพบหัวหน้าภาคส่วนและเหล่าเสนาบดีภาคส่วนกระทรวงบุคลากรเพื่อโน้มน้าวมาเป็นพวกให้ได้ก่อนโดยประทานทองคำจำนวนหนึ่งและทรงรับปากว่าบุตรของพวกเขาจะได้รับตำแหน่งทางราชการ หลังจากที่ท่านอัครมหาเสนาบดีได้รับรายงานว่าหัวหน้าภาคส่วนบุคลากรกำลังหักหลังโดยร่วมมือกับใต้เท้ายุนเพื่อสนับสนุนองค์ชายโบกอม เขาจึงมอบโฉนดที่ดินราคาสูงในเมืองหลวงให้กับเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมเพื่อแก้แค้นหัวหน้ากระทรวงบุคลากรและเสนอโอกาสในอนาคตหากองค์ชายอึยซองได้เป็นองค์รัชทายาท องค์ราชินีทรงทราบเรื่องนี้และปล่อยให้พวกเขาขัดแย้งกันเองระหว่างฝ่ายองค์ชายอึยซองและฝ่ายองค์ชายโบกอมเพราะจะทำให้องค์ชายซองนัมเป็นฝ่ายได้เปรียบ

เมื่อแต่ละฝ่ายต่างก็ใช้วิธีตุกติกเพื่อโน้มน้าวเหล่าบัณฑิตที่ถูกควบคุมอยู่ในบริเวณจำกัด องค์ราชินีจึงทรงคิดว่าความคิดของเหล่าบัณฑิตกำลังเริ่มผันผวน บัณฑิตคนหนึ่งเสแสร้งป่วยหนักเพื่อมาทูลสนมฮวังและท่านอัครมหาเสนาบดีว่าตอนนี้องค์ชายอึยซองมีคะแนนรั้งท้ายเพราะบันทึกในสำนักเชื้อพระวงศ์ที่ระบุว่าองค์ชายอึยซองเคยทำร้ายข้าราชบริพารในวังหลายครั้งและสนมฮวังกับท่านอัครมหาเสนาบดีก็พยายามปกปิดเรื่องนี้ ท่านอัครมหาเสนาบดีแน่ใจว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของพระพันปี

พวกเขาจึงไปเข้าเฝ้าพระพันปีเพื่อขอให้พระนางทรงสนับสนุนองค์ชายอึยซองโดยท่านอัครมหาเสนาบดีเสนอข้อแลกเปลี่ยนที่จะถวายสิทธิ์ในการแต่งตั้งบุคลากรซึ่งจะทำให้ทั้งหกกระทรวงจะเต็มไปด้วยคนของพระนาง นอกจากนั้นสนมฮวังก็รับปากว่าหากองค์ชายอึยซองได้เป็นองค์รัชทายาท นางก็จะไม่รับตำแหน่งราชินีที่มีอำนาจควบคุมสตรีแห่งราชวงศ์ แต่จะถวายสิทธิ์นั้นให้กับพระพันปีเช่นกัน

พระพันปีทรงมีรับสั่งให้คนของพระนางส่งจดหมายให้เหล่าบัณฑิตเพื่อสนับสนุนองค์ชายอึยซองและทรงขอให้องค์ชายโบกอมถอนตัวออกจากการแข่งขันโดยอ้างถึงสัญญาที่สนมแทเคยรับปากว่าจะยอมทำตามรับสั่งทุกอย่าง พระนางทรงอ้างว่าสนมแทเป็นคนชั้นต่ำจึงทำให้องค์ชายโบกอมไม่เหมาะสมที่จะเป็นองค์รัชทายาทถึงแม้ว่าจะเฉลียวฉลาดและเรียนเก่งกว่าใครก็ตาม

องค์ราชินีไม่ทรงยอมอยู่เฉยหรือแพ้เช่นนี้เด็ดขาด พระนางจึงเสด็จไปตรวจสำรับอาหารที่เหล่านางในกำลังจะนำไปให้เหล่าบัณฑิตและทรงพบจดหมายซ่อนอยู่ในอาหารเหล่านั้น

เมื่อฝ่าบาทเสด็จมาถึงพระนางจึงทูลขอพระราชานุญาตเข้าไปตรวจสอบการทุจริตและพบหลักฐานมากมายซึ่งเป็นข้อเสนอสินบนทั้งสิ้นเพื่อให้สนับสนุนองค์ชายอึยซอง องค์ราชินีทรงตรัสให้ข้อคิดแก่เหล่าบัณฑิตว่าพวกเขาคือคนที่จะขับเคลื่อนอนาคตของประเทศนี้ แล้วเหตุใดจึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นนายและการทุจริตเช่นนี้ก็ไม่อาจทำให้พวกเขาเป็นเหล่าขุนนางที่ดีได้ พระนางทรงเผาจดหมายเหล่านั้นทิ้งและจะไม่ทรงถามไถ่ถึงที่มาและที่ไปแต่จะทรงมอบโอกาสสุดท้ายให้พวกเขาได้ปกป้องตัวตนของตนเอง หลังจากนั้นพระนางเสด็จออกมาทูลกับฝ่าบาทว่าไม่ทรงพบหลักฐานการทุจริตใดๆ เหล่าบัณฑิตพร้อมใจกันเผาจดหมายทั้งหมดที่ซุกซ่อนไว้และบอกกับองครักษ์ด้านนอกว่าจะไม่ขอรับการเข้าถึงใดๆ จากภายนอกและของดสำรับอาหารทั้งหมดจนกว่าการตัดสินจะสิ้นสุดลง

เหล่าบัณฑิตทูลเชิญองค์ชายอึยซองและองค์ชายซองนัมเพื่อตอบโจทย์คำถามที่พวกเขาถวายเพื่อการประเมินในรอบสุดท้าย องค์ราชินีทรงลงโทษสนมแทด้วยการปลดนางมาเป็นนางกำนัลตำหนักจุงกุงดังเดิมและทรงสั่งให้นางทำงานสารพัดเพื่อสอนให้นางลดละความกลัดกลุ้มในใจ

แม้ว่าสนมแทจะให้เหตุผลว่านางทำทุกอย่างเพื่อให้องค์ชายโบกอมได้เป็นองค์รัชทายาทแต่องค์ราชินีทรงตรัสว่าหากนางใช้วิธีที่ผิดก็อาจจะทำให้ลูกเจ็บปวดและสุดท้ายแล้วความโลภนั้นก็จะทำให้องค์ชายโบกอมถูกหลอกใช้ แม่มิใช่ผู้นำทางลูกแต่เป็นคนที่คอยแนะนำเส้นทางที่เคยเดินมาก่อนให้แก่ลูก

เพราะฉะนั้นแล้วสนมแทก็มิควรทำให้ลูกต้องเดินในเส้นทางที่อันตราย องค์ราชินีรับสั่งให้สนมแทกลับไปแต่งตัวเป็นสนมดั่งเดิมเมื่อเห็นว่านางคิดได้แล้ว เมื่อองค์ชายโบกอมเข้าเฝ้า องค์ราชินีจึงทรงตรัสเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟังและสั่งสอนพร้อมทั้งให้กำลังใจองค์ชายเพราะพระนางอยากให้องค์ชายโบกอมคอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้างองค์รัชทายาทในอนาคต น้ำพระทัยขององค์ราชินีที่ทรงปลอบโยนองค์ชายโบกอมให้ระบายหรือพูดออกมาถึงความลำบากและความเจ็บปวดเพื่อที่คนอื่นจะได้รับรู้

พระพันปีไม่พอพระทัยเมื่อเหล่าบัณฑิตเปลี่ยนไปหลังจากที่องค์ราชินีเสด็จไปที่นั่น แต่ยังทรงแน่วแน่ที่จะโปรดให้องค์ชายอึยซองเป็นองค์รัชทายาทให้ได้เพราะเป็นพระประสงค์ตั้งแต่แรกที่ไม่คิดจะเปลี่ยน แต่ที่ทรงเสแสร้งสนับสนุนองค์ชายโบกอมก็เพื่อหลอกใช้สนมแทและเขี่ยทิ้งเมื่อพระนางได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ท่านยุนเริ่มวิตกเมื่อได้ยินพระนางทรงตรัสเช่นนั้นถ้าหากว่าสักวันหนึ่งตนเองจะหมดประโยชน์ต่อพระนาง แต่พระนางทรงตรัสว่าลูกสาวของท่านยุนจะได้เป็นพระชายาไม่ว่าใครจะได้เป็นองค์รัชทายาทก็ตาม

คุณหนูยุนชองฮาแน่ใจว่าองค์ชายซองนัมก็มีใจให้นางเช่นกัน ถึงแม้ว่านางไม่รู้สถานะที่แท้จริงเพราะคิดว่าเขาเป็นเพียงนักปราชญ์สามัญชน

สนมฮวังวางแผนไว้ล่วงหน้าและใช้กลอุบายใช้พิษงูเพื่อให้เลือดแข็งตัวถึงแม้จะผสมกับน้ำก็ไม่อาจมองเห็นได้และจะทำให้พระโลหิตของฝ่าบาทและองค์ชายซองนัมไม่อาจรวมตัวกันได้ หากต้องมีการพิสูจน์ว่าองค์ชายซองนัมทรงเป็นพระโอรสที่แท้จริง
ก่อนที่ฝ่าบาทจะทรงประกาศผลการตัดสินของเหล่าบัณฑิตว่าผู้ใดจะได้เป็นองค์รัชทายาท ท่านอัครมหาเสนาบดีกลับแทรกขึ้นมาถึงชาติกำเนิดที่แท้จริงขององค์ชายซองนัม

ฝ่าบาทจึงทรงยอมรับการพิสูจน์จากสำนักหมอหลวงด้วยวิธีฮับฮยอลบอบตามตำราแพทย์ที่แม่นยำ องค์ราชินีทูลขอให้ใช้ภาชนะกระเบื้องในการพิสูจน์พระโลหิต แต่ด้วยแผนการของสนมฮวังและท่านอัครมหาเสนาบดีทำให้ผลพิสูจน์ออกมาว่าพระโลหิตของฝ่าบาทและองค์ชายซองนัมไม่อาจรวมตัวกันได้

ท่านอัครมหาเสนาบดีจึงทูลเสนอให้ถอนรายชื่อองค์ชายซองนัมออกไปเพราะไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นองค์รัชทายาท แต่องค์ราชินีไม่อาจยอมรับผลการตรวจนี้ได้และทรงทูลฝ่าบาทว่าสำหรับวิธีฮับฮยอลบอบหากมีสิ่งแปลกปลอมผสมอยู่ในน้ำก็จะทำให้ผลตรวจแตกต่างออกไป ดังนั้นพระนางจึงทูลขอเสนอให้ตรวจสอบเลือดของสนมฮวังและท่านอัครมหาเสนาบดีซึ่งเป็นพ่อลูกกันด้วยวิธีเดียวกันและต้องใช้น้ำเดียวกันซึ่งผลตรวจออกมาว่าเลือดไม่รวมตัวกัน

ดังนั้นองค์ราชินีจึงทรงทูลเสนอให้พิสูจน์ด้วยวิธีอื่นโดยเรียกองค์ชายทุกพระองค์และทูลเชิญพระพันปีมาพิสูจน์กระดูกหลังใบหูขององค์ชายทุกพระองค์ซึ่งถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากฝ่าบาท ยกเว้นองค์ชายอึยซองที่พระพันปีไม่ทรงพบกระดูกนั้นแต่ทรงยืนยันว่าทุกองค์ชายทรงมีกระดูกหลังใบหูเหมือนกับฝ่าบาท สนมฮวังสีหน้าไม่สู้ดีนักเพราะพระพันปีทรงรู้ความจริงบางอย่าง จากนั้นองค์ราชินีจึงตรัสต่อหน้าทุกคนว่าพระนางทรงพระครรภ์องค์ชายซองนัมก่อนหน้าที่จะมีการไว้ทุกข์ในเวลานั้น

แต่เมื่อให้กำเนิดแล้ว จึงทำให้องค์ชายซองนัมต้องไปเติบโตนอกราชวัง เพราะการคาดเดาของพระพันปีและผู้ใหญ่ในราชวงศ์ได้ตราหน้าว่าองค์ชายซองนัมเป็นเด็กมีมลทินตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดมา และเพราะฝ่าบาทเพิ่งทรงครองราชย์ พระนางก็ไม่อาจแก้ไขอะไรให้ถูกต้องได้ จึงทำให้เกิดข้อถกเถียงว่าองค์ชายซองนัมไม่ใช่โอรสแท้ๆของฝ่าบาทจนถึงทุกวันนี้ ฝ่าบาททรงประกาศต่อหน้าทุกคนว่าองค์ชายซองนัมคือโอรสแท้ๆของพระองค์เพื่อจบข่าวลือมั่วๆเหล่านั้น และหากใครพูดถึงข่าวลือนี้อีกพระองค์จะทรงถือว่าเป็นการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์และจะลงโทษขั้นสูงสุด

ผลการตัดสินและประกาศอย่างเป็นทางการว่าองค์ชายซองนัมคือองค์รัชทายาทพระองค์ใหม่ แต่องค์ชายอึยซองยังทรงคิดว่าตนเองยังมีโอกาสเพราะใช่ว่าองค์รัชทายาทจะได้เป็นกษัตริย์เสมอไป จึงขอให้ท่านตาและพระมารดาช่วยหาวิธีลากองค์ชายซองนัมลงมาจากตำแหน่งให้ได้ จากนั้นพวกเขาทั้งสามคนจึงคิดวางแผนการกันใหม่อีกครั้ง อดีตหมอหลวงควอนปลอมตัวเข้าไปหาซอฮัมด๊อกที่ถูกขังในคุกข้อหากบฏ