The First Responders


ชื่อเรื่อง : 소방서 옆 경찰서 / The First Responders / The Police Station Next to the Fire Station
ประเภท : ดราม่า
จำนวนตอน : 12
ออกอากาศช่อง : SBS
ช่วงออกอากาศ : 12 พ.ย. 2022 -
วันเวลาออกอากาศ : ศุกร์ เสาร์ 20.00 น.


สปอยล์ The First Responders ตอนที่ 2

ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินไปช่วยฮยอนซอเด็กนักเรียนมัธยมที่คิดฆ่าตัวตายและพบเธอหลับอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในบ้านเพราะกินสารพิษเข้าไป เจ้าหน้าที่ซงซอลไม่รู้ว่าเป็นสารพิษพาราควอตจึงให้ออกซิเจนกับฮยอนซอระหว่างทางที่มาโรงพยาบาล หมอแจ้งว่าออกซิเจนที่ฮยอนซอได้รับเข้าไปนั้นทำให้เกิดพังผืดที่ปอดและหายใจลำบากเพราะสารพิษทำงานได้เร็วมากขึ้นซึ่งเธอจะเสียชีวิตในอีกไม่ช้า แม้ว่าซงซอลจะช่วยปั๊มหัวใจและหมอใช้เครื่องชาร์จเพื่อยื้อชีวิตของฮยอนซอแต่ก็ไม่อาจช่วยเธอได้ ก่อนที่ฮยอนซอจะสิ้นใจ เธอได้บอกกับซงซอลว่าเธออยากหาเงินได้เยอะๆ เพื่อซื้อของดีๆ ให้กับแม่และมีใครคนหนึ่งบอกกับเธอว่าถึงจะกินยาฆ่าแมลงเข้าไปก็ยังไม่ตาย

นอกจากรอยเท้าที่สายสืบจินโฮแกพบในบ้านของฮยอนซอก่อนที่เธอจะกินยาพิษเข้าไปนั้น เขายังพบข้อความข่มขู่ในโทรศัพท์ของเธอที่จะช่วยให้ตายได้เร็วขึ้น มันคือแอปแชตที่ไม่แสดงชื่อและใช้เซิฟเวอร์ หลังจากนั้นสักระยะหนึ่งข้อความก็จะถูกลบโดยอัตโนมัติจึงเป็นเรื่องยากที่จะตามตัวผู้ต้องสงสัย

สายสืบกงมยองพิลเข้าไปสอบถามข้อมูลจากเพื่อนๆ ในห้องเรียนที่ไปร่วมพิธีศพของฮยอนซอตามคำสั่งของคุณครู แต่พวกเขาไม่ได้บอกอะไรเพราะไม่สนิทกับผู้ตาย จินโฮแกเห็นโจมันชิกท่าทางมีพิรุธในงานศพ ผลตรวจดีเอ็นเอของฮยอนซอไม่พบคราบอสุจิอย่างที่จินโฮแกสงสัย พฤติกรรมของฮยอนซอขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น เธออยู่แต่ที่บ้านกับโรงเรียนและไม่สุงสิงกับใครนอกจากใช้โทรศัพท์มือถือ

โฮแกคิดว่ารอยเท้าที่พบในที่เกิดเหตุน่าจะเป็นของคนร้ายที่ไปหาฮยอนซอขณะที่เธอกินยาตาย แต่เมื่อเห็นว่าเธอถูกนำส่งโรงพยาบาลในสภาพปกติ คนร้ายจึงลนลานและส่งข้อความข่มขู่เธอ

ขณะที่ซงซอลช่วยโฮแกหาข้อมูลหลังจากที่เห็นรอยสักรูปดาวที่ข้อมือของฮยอนซอจากกล้องติดตัวเธอขณะอยู่ในที่เกิดเหตุ เธอเห็นกระเป๋าสตางค์พวงกุญแจบนโต๊ะทำงานของโฮแกและคิดว่าเป็นหลักฐานของฮยอนซอที่เขาเก็บไว้ แต่โฮแกรีบเก็บเข้าลิ้นชักและบอกว่าเป็นคนละฮยอนซอ รอยสักรูปดาวบนข้อมือและโพสต์ตัดพ้อต่างนานาทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคิดว่าเป็นของฮยอนซอ นอกจากนั้นยังมีภาพอาหารแพงๆที่เธอโพสต์ไว้อีกด้วย จากนั้นพวกเขาจึงหาข้อมูลและโลเคชั่นของร้านอาหารเพื่อสืบคดีหาตัวคนร้ายต่อไป

โจมันชิกยอมรับว่าเขาไปงานศพของฮยอนซอและเคยพาเธอไปกินอาหารแพงๆ เพราะเธอเป็นลูกสาวของอดีตภรรยา แต่ฮยอนซอไม่สนใจกินอาหารและหมกมุ่นอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ หลังจากนั้นเธอก็ขอเงินจากเขาสิบล้านวอนซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่สอดคล้องกับสถานะของนักเรียน

สารเรืองแสงที่ท่อแก๊สบนกำแพงบ้านของฮยอนซอที่คนร้ายปีนขึ้นไปนั้น ทำให้โฮแกพบรอยนิ้วมือที่ขอบหน้าต่าง แต่ทว่าลายนิ้วมือนั้นไม่อยู่ในฐานข้อมูลอาชญากร โฮแกจึงใช้วิธีตรวจดีเอ็นเอจากรอยนิ้วมือที่แก้วน้ำของกลุ่มเด็กนักเรียนที่ไปร่วมงานศพของฮยอนซอซึ่งเขาเก็บแก้วน้ำเหล่านั้นไว้เพราะคิดว่ารอยเท้าที่พบในที่เกิดเหตุมีขนาดเล็กเกินไป ผลตรวจดีเอ็นเอพบผู้ต้องสงสัยเป็นเด็กนักเรียนชายยังจุนแทที่มีสารเรืองแสงติดอยู่ที่พื้นรองเท้าผ้าใบและฝ่ามืออีกด้วย

ยังจุนแทพยายามนำโทรศัพท์ของตนเองเข้าไม่โครเวฟเพื่อทำลายหลักฐานเมื่อเจ้าหน้าที่บุกไปที่บ้าน เขาอ้างว่าแวะไปหาฮยอนซอที่บ้านในฐานะหัวหน้าห้องที่ครูสั่งให้ไปดูแลเพื่อนที่ไม่คบค้าสมาคมกับใคร จุนแทแน่ใจว่าตำรวจไม่มีหลักฐานอื่นและเขาเองก็ยังเป็นเยาวชน โฮแกควบคุมตัวเขาไว้หกชั่วโมงเพื่อวางแผนทำให้เขายอมรับผิดให้ได้

ขณะที่จุนแทยังอยู่ในห้องสอบสวนและใช้หูฟังโทรศัพท์ตลอดเวลา อันนาจึงแฮ๊คว่าเขากำลังฟังเพลงอะไร โฮแกกลับเข้าไปหาจุนแทอีกครั้งพร้อมกับเพลงที่เขากำลังฟังและเครื่องดื่มชนิดเดียวกับที่ฮยอนซอกินเข้าไป จุนแทมีสีหน้าตกใจและมีพิรุธจนกระทั่งยอมเล่าความจริงทั้งหมดว่าเขาชักชวนฮยอนซอให้เล่นเกมพนันออนไลน์จนกระทั่งเธอติดหนี้นอกระบบจำนวนมากและเขาก็ข่มขู่เรียกเงินจากเธอพร้อมดอกเบี้ย เธอหาทางออกไม่ได้จึงกินยาฆ่าตัวตายซึ่งเขาอยู่ที่บ้านของเธอในคืนนั้นและรีบหนีออกมา โฮแกสามารถปิดคดีนี้ได้สำเร็จ

โฮแกนำนกกระดาษไปสะสมใส่ไว้ในกล่องที่หน้าหลุมศพของคิมฮยอนซอหรือที่เขาเรียกว่า”เจ้าหนู”ซึ่งเป็นเจ้าของกระเป๋าสตางค์ที่เขาเก็บไว้และไม่ใช่คนเดียวกับคดีล่าสุด

มาแทฮวาอดีตผู้อำนวยการมาซงและนักโทษคดียาเสพติด ที่แอบไปพบหัวหน้าอัยการจินชอลจุง(พ่อของโฮแก)อย่างลับๆ อยู่เสมอเพื่อวิ่งเต้นคดีและแผนการบางอย่าง อัยการจินชอลจุงให้การต้อนรับและพินอบพิเทาทุกครั้งที่พบกันและพยายามปฏิเสธที่จะชักจูงโฮแกลูกชายของตนเองให้มาเป็นพวก ทำให้มาแทฮวาไม่ค่อยพอใจและแอบสืบประวัติของโฮแก (ฉายาหมาจินโด)

แม้ว่ามาจุงโด(พ่อของมาแทฮวา) จะใช้เส้นสายและเงินจำนวนมากเพื่อให้ลูกชายได้รับการปล่อยตัว แต่เขาก็ต้องการถอนชื่อมาแทฮวาออกจากทะเบียนบ้าน

ห้องที่โฮแกเช่าอยู่นั้นเป็นห้องที่เคยไฟไหม้และมีคนหายไป เขาเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมและวางเพลิง จึงเริ่มสืบสวนคดีนี้โดยบงโดจินนำแฟ้มข้อมูลมาให้เพราะเขาคือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในเวลานั้นแต่ไม่พบหลักฐานใดๆจึงต้องปิดคดี โฮแกรื้อพื้นห้องและพบคราบเลือดที่ใต้พื้นนั้น